แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ suratthani แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ suratthani แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สโมสรโรตารีสุราษฎร์ธานี มอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับ รพ.กาญจนดิษฐ์ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รวมมูลค่า 343,000 บาท #เมืองคนดีนิวส์ ฉบับ 186


เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 นายสุรพงศ์ ปานเจริญ นายกสโมสรโรตารีสุราษฎร์ธานี  พร้อมคณะกรรมการ และ ผวภ. ละออ จินดา ผู้ว่าการภาค 3330 โรตารีสากล ปี 2565-2566 สุภาพบุรุษ รทร.จุฬานันท์ จินดา  อน.เพ็ญศรี สิงหภูมิ ผู้ช่วยผู้ว่าการภาคฯ พื้นที่ 14 ได้เดินทางไปมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับ รพ.กาญจนดิษฐ์ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี  จำนวน 3 รายการ

1.เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 150,000 บริจาคโดย บริษัท วีเหลี่ยมหว่องกรุ๊ป จำกัด  (คุณสมศรี ว่องชาญกิจ)
2.เตียงปฏิบัติการทางกายภาพบำบัด ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า จำนวน 1 เตียง มูลค่า 98,000 บาท บริจาคโดย บริษัท มนิตาออยล์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด และผู้ร่วมสนับสนุนงินผ่านสโมสรโรตารีสราษฎร์ธานี
3.เครื่องกรอฟันเคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 95,000 บริจาคโดย บริษัท วีเหลี่ยมหว่องกรุ๊ป จำกัด  (คุณสมศรี ว่องชาญกิจ)
บก.ป้อม  เมืองคนดี  ถ่ายภาพ / รายงาน



นายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง เปิดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลท่าฉางสัมพันธ์ ครั้งที่ 4 #ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์ ฉบับ 185














        วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลท่าฉางสัมพันธ์ ครั้งที่ 4 ณ สนามบาสเกตบอลโรงรียนท่าฉางวิทยาคาร หมู่ที่ 6 ตำบลเขาถ่าน อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งอำเภอท่าฉางร่วมกับทีมบาสเกตบอลท่าฉางรัตนวิมล (นายไพฑูรย์ เพชรวิเชียร) และโรงเรียนท่าฉางวิทยาคาร กำหนดจัดการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล ท่าฉางสัมพันธ์ คร้ังที่ 4 ระหว่างวันที่ 30 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2565 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 60 ทีม


โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทักษากีฬาบาสเกตบอลให้แก่นักกีฬา รู้จักแพ้ ชนะ รู้รักสามัคคี ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  ห่างไกลยาเสพติด สนับสนุนโดย เทศบาลตำบลท่าฉาง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ศูนย์กระจายสินค้าสุราษฎร์ธานี บริษัทไทยเบฟเวอเรจโลจิตติก จำกัด มูลนิธิกุศลศรัทธาอำเภอท่าฉาง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าฉาง สถานีตำรวจภูธรท่าฉาง เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และประชาชน

ทางอำเภอท่าฉางได้น้อมนำแนวทางดำเนินงานตามโครงการ TO BE NUMBER ONE ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มุ่งเน้นกิจกรรมสร้างสรรค์และปลูกฝังทัศนคติ “การเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” จัดกิจกรรมที่มีประโยชน์เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็ก เยาวชน ในรูปแบบที่จะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งสามารถสร้างบุคลิกภาพที่ดี รวมไปถึงสร้างวินัยให้เยาวชนเป็นคนดีอย่างมีคุณภาพไปตลอดชีวิต   ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ  TO BE NUMBER ONE  เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน  และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดไม่ให้เกิดต่อเด็กและเยาวชน เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างส่วนราชการ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สถานประกอบการ ขับเคลื่อนการดำเนินงานรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE  NUMBER  ONE ในการนี้ นายอำเภอท่าฉางได้ร่วมชู้ตบาส เพื่อเปิดการแข่งขันด้วย















วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563

สปสช.ออกหลักเกณฑ์จ่ายชดเชย กรณีโรคโควิด-19 (5/4/2563)

สปสช.ออกหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยค่าบริการให้แก่หน่วยบริการ 
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
#สปสช   #ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์ #ชีพจรสุราษฎร์ #SuratNews 5/4/2563

สปสช.ออกหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยค่าบริการให้แก่หน่วยบริการ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ่ายค่าแล็บไม่เกิน 3,000 บาท/ครั้ง ค่ายาไม่เกิน 7,200 บาท/ราย เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลดูแลรักษาประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ตนได้ลงนามในประกาศ สปสช. เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2563 และ ประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2563 และหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ (ฉบับที่ 5) เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิของบุคคลให้ได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข สำหรับการให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งได้ดำเนินงานก่อนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นการดำเนินงานตามประกาศนี้ด้วย

นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของประกาศ สปสช. เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2563 มีสาระสำคัญคือให้สิทธิการรับบริการสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขที่ผู้มีสิทธิได้รับตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ซึ่งการออกหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยค่าบริการให้แก่หน่วยบริการ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะช่วยทำให้โรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นสถานการณ์ไม่ธรรมดา การระดมทรัพยากรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยุติการแพร่ระบาด ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ป้องกัน และยารักษา รวมถึงงบประมาณ การออกหลักเกณฑ์การจ่ายชดเชยครั้งนี้ จะเป็นส่วนสนับสนุนให้หน่วยบริการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ รัฐบาลโดย สปสช. จะจ่ายชดเชยเพิ่มเติมให้กับหน่วยบริการที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วยในระบบปกติ” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ประกาศ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2563 และหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ (ฉบับที่ 5) จะกล่าวถึงการเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายเพื่อบริการทางการแพทย์ต่างๆ สำหรับกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย

1.การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ
1.1 ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ รวมค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) สำหรับบุคลากรห้องปฏิบัติการยืนยันการติดเชื้อ จ่ายตามจริงไม่เกิน 3,000 บาท/ครั้ง
1.2 ค่า PPE สำหรับบุคลากรเพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจ จ่ายตามจริงไม่เกิน 540 บาท/ครั้ง

2.ค่าห้องควบคุมรวมค่าอาหาร
2.1 ค่าห้องควบคุมหรือห้องดูแลการรักษารวมค่าอาหาร ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขกำหนดหรือแนะนำ จ่ายตามจริงไม่เกิน 2,500 บาท/วัน
2.2 ค่าหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 จ่ายตามจริงไม่เกิน 1,500 บาท/วัน

3. ค่า PPE จ่ายตามจริงไม่เกิน 740 บาทต่อชุด
 3.1 สำหรับผู้ป่วยอาการเล็กน้อย ถึงอาการปานกลาง จ่ายตามการให้บริการจริงไม่เกิน 15 ชุด/วัน
3.2 สำหรับผู้ป่วยอาการรุนแรงจ่ายตามการให้บริการจริงไม่เกิน 30 ชุดต่อวัน

4. ค่ายาที่เป็นการรักษาเฉพาะผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 จ่ายตามจริง ไม่เกิน 7,200 บาท/ราย หรือจ่ายชดเชยเป็นยา ทั้งนี้ ในกรณีมีความจำเป็นที่หน่วยบริการต้องใช้ยารักษาผู้ป่วยเกินกว่าอัตราที่กำหนด ให้หน่วยบริการขออนุมัติต่อ สปสช. เป็นรายกรณี

5. ค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วยระหว่างหน่วยบริการ
5.1 ค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วยระหว่างหน่วยบริการ อัตราจ่ายเป็นไปตามคู่มือแนวทางปฏิบัติในการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของสำนักงาน
 5.2 ค่า PPE รวมค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อพาหนะ จ่ายตามจริงไม่เกิน 3,700 บาท/ครั้งที่มีการส่งต่อผู้ป่วย


6. ค่าตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อสำหรับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนไทยทุกคน จ่ายตามอัตราที่กำหนดในข้อ 1 โดยอนุโลม

ข้อมูลจาก  https://www.nhso.go.th/FrontEnd/NewsInformationDetail.aspx?newsid=MjcyOQ==
....

MKD SURAT NEWS

ติดต่อกอง บก.ข่าว " โทร. 084 940 2289
https://www.facebook.com/MKDsurat/
https://www.facebook.com/groups/oksurat/
ติดต่อกอง บก.ข่าวภาคสนาม ถ่ายทอดสด "สุราษฎร์ LIVE สด" โทร. 091 826 9901
https://www.facebook.com/SuratLiveSod/

#ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์ #เมืองคนดีนิวส์ออนไลน์ #สุราษฎร์LIVEสด