วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ครม.ไฟเขียว ! ลดเงินสมทบประกันสังคม 3 เดือน

ครม.ไฟเขียว ! ลดเงินสมทบประกันสังคม 3 เดือน
สู้โควิด-19 รอบใหม่

ไฟเขียว! ลดเงินสมทบประกันสังคม 3 เดือน สู้โควิดรอบใหม่
.ผู้ประกันตนและนายจ้าง ฟังทางนี้…
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนและนายจ้าง ครม. มีมติปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม

🔷 ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 64
ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ เป็นเวลา 3 เดือน
จากเดิม 5% เหลือ 3% ของค่าจ้างผู้ประกันตน
ลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 และรัฐบาลส่งเงินสมทบเท่าเดิม คือ 2.75%
รัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 33

ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 ลดอัตราเงินสมทบ จากเดิมเดือนละ 432 บาท เหลือ 278 บาท
นายจ้างและผู้ประกันตน จ่ายเงินสมทบฝ่ายละ 1.85%
จ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทน
กรณีประสบอันตราย ทุพพลภาพ เสียชีวิต และคลอดบุตร
รัฐบาลปรับเป็น 1.45% ฝ่ายละ 1.05%

กรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ
จ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทน
กรณีว่างงาน นายจ้างและผู้ประกันตน จ่ายเงินสมทบฝ่ายละ 0.1% รัฐบาลปรับเป็น 0.25% รัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกันตน ตามมาตรา 33

🔷 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นไป
กรณีว่างงาน นายจ้างและผู้ประกันตน จ่ายฝ่ายละ 0.5%
กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และคลอดบุตร ฝ่ายละ 1.5%
กรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพ รัฐบาลจ่าย 0.25%
นายจ้างและผู้ประกันตน จ่ายฝ่ายละ 3% รัฐบาลจ่าย 1%
. .
#ไทยคู่ฟ้า #รวมไทยสร้างชาติ
🔖 การลดอัตราเงินสมทบนี้ จะส่งผลดีต่อผู้ประกันตนและนายจ้าง ช่วยให้ผู้ประกันตนนำเงินไปใช้จ่ายเสริมสภาพคล่อง และช่วยให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบลดลง 7,412 ล้านบาท ได้ประมาณคนละ 460 - 900 บาท คิดเป็นมูลค่า 8,248 ล้านบาท
👍LINE : ไทยคู่ฟ้า (@thaigov)
-------------------
👍Website : www.thaigov.go.th
👍Facebook/Twitter : ไทยคู่ฟ้า
👍YouTube : ไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

อ้างอิงที่มาของข่าว : https://www.facebook.com/1494662884151960/photos/a.1496399397311642/2897005063917728/

ติดต่อกอง บก.ข่าว "เมืองคนดีนิวส์ On Line" https://www.facebook.com/MKDsurat/ โทร. 084 940 2289 https://www.facebook.com/groups/oksurat/ โทร. 091 826 9901 #ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์ #เมืองคนดีนิวส์OnLine #สุราษฎร์LIVEสด #SURATLIVESOD


วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ผวจ.สุราษฎร์ธานี แถลงข่าวพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรก 

#ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์  #ชีพจรสุราษฎร์  #SuratNews #MKDtv


เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63  ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 คน นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี แพทย์หญิงจินตนา ศรีสมปอง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นายแพทย์ปณิธาน สื่อมโนธรรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี  ร่วมแถลงข่าว  กรณีจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย  เป็นชายไทยอายุ 53 ปี  มีประวัติเดินทางไป-กลับตลาดทะเลไท จังหวัดสมุทรสาคร  ถือเป็นผู้ป่วยรายที่ 1 ระลอกใหม่ แต่ไม่มีอาการ


นายวิชวุทย์ กล่าวว่า จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร ทาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ติดตามตรวจสอบผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม จำนวน 20 คนเป็นพม่า 13 คน คนไทย 7 คนผลปกติ วันที่ 21 ธันวาคม จำนวน 33 คน พม่า 22 คน คนไทย 11 คน ผลปกติ วันที่ 22 ธันวาคม จำนวน 105 คน พม่า 40 คน คนไทย 65คน ที่ติดต่อกับจ.สมุทรสาคร ผลปกติ 104 คนและพบผลเป็นบวก 1 คน เป็นชายไทย อายุ 53 ปี พนักงานขับรถส่งกุ้งไปที่ จ.สมุทรสาคร ถือเป็นรายที่ 1 ของ จ.สุราษฎร์ธานี ในการระบาดระลอกใหม่





นายแพทย์กู้ศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ชายดังกล่าวขับรถเดินทางไปส่งของ ไป-กลับที่ตลาดทะเลไท แวะบ้านที่ อ.พุนพิน วันที่ 8 ธันวาคม ขับรถไปรับกุ้งที่ อ.กาญจนดิษฐ์ เดินทางไปส่งที่ตลาดทะเลไท อีกครั้งและวันที่ 9-11ธันวาคม อยู่ที่ตลาดทะเลไท พอวันที่ 12 ธันวาคม จึงเดินทางกลับสุราษฎร์ธานี ต่อมาวันที่ 13 ธันวาคม ขับรถไปส่งวัสดุก่อสร้างที่แพแห่งหนึ่งใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี วันที่ 14-20 ธันวาคม ไปขึ้นของที่นากุ้ง อ.กาญจนดิษฐ์ เดินทางไปส่งกุ้งที่ จ.ระนอง ไป-กลับทุกวัน กระทั่งวันที่ 21 ธันวาคม เข้ารับการตรวจเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ แต่ยังไม่มีอาการ จนวันที่ 22 ธันวาคม จึงพบเชื้อโควิด 
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้มีผู้สัมผัสทั้งหมด 21 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 11 ราย ครอบครัวเดียวกัน 2 รายแม่และลูกชาย ไม่มีอาการป่วย ผู้ร่วมงาน 7 รายเป็นนายจ้าง 1 รายและเพื่อนร่วมงาน 6 รายไม่มีอาการป่วย ผู้โดยสารในรถคันเดียวกัน 2 รายไม่มีอาการป่วย ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดความเสี่ยงต่ำ 10 ราย เป็น ผู้สัมผัสร่วมงาน(นายจ้าง) 1 ราย ไม่มีอาการป่วย อยู่ระหว่างรอผล และบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วยอีก 9 ราย ไม่มีอาการป่วย โดยผู้ติดเชื้อรายนี้พักรักษาในห้องความดันลบโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ไม่มีอาการ โดยต้องกักตัวไว้รอดูอาการจนครบกำหนด 10 วัน
ด้านนายวิชวุทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนที่พบว่า มีกลุ่มเสี่ยงใดที่เกี่ยวข้องเช่น กลุ่มผู้หญิงเอ็นเตอร์เทนต์(เด็กN)ไปร่วมงานที่เกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดได้ติดตามมาตรวจครบทั้ง 10 คนแล้ว พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดได้ใช้มาตรการเชิงรุกตั้งจุดตรวจใน 8 อำเภออย่างเข้มข้น รวมทั้ง ให้แรงงานจังหวัดลงพื้นที่ตรวจกลุ่มแรงงานต่างด้าวห้ามมีการเคลื่อนย้ายใดๆ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อเข้มงวดการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19  ประกอบด้วย การขอความร่วมมือห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก จากพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะประชาชนขอให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากที่พัก ล้างมือหรือใช้แอลกอฮอล์หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างกัน 
รวมถึง ขอความร่วมมืองดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก เช่น งานปีใหม่ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี งานวันเด็ก กิจกรรมกีฬา และการจัดเทศกาลต่างๆ  และมาตรการเชิงรุกตั้งจุดตรวจจุดคัดกรอง ใน อำเภอ ที่เป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดที่มีการสัญจรไปมาคับคั่ง ประกอบด้วย อ.ท่าชนะ อ.เคียนซา อ.บ้านตาขุน อ.เวียงสระ อ.ดอนสัก อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน ซึ่งรวมถึงท่าอากาศยานสมุย ท่าเรือเฟอร์รี่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า พร้อมจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วทุกอำเภอ 
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เน้นย้ำว่า ประชาชนต้องไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ขอให้ช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เราต้องช่วยกัน เพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน ส่วนมาตรการเพิ่มเติมต่างๆ จังหวัดขอรอผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ก่อน



นายอำเภอบ้านนาเดิม พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ดำเนินมาตรการคัดกรองให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

#ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์  #ชีพจรสุราษฎร์  #SuratNews #MKDtv

วันที่ 21 ธ.ค. 63 นายจักรกฤษณ์  ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอบ้านนาเดิม/ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฯ พร้อมด้วย สาธารณสุขอำเภอ, สภ.บ้านนาเดิม, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, สมาชิกกองร้อย อส.อ.บ้านนาเดิม ที่ 13 และชุดเคลื่อนเร็วอำเภอ  ลงพื้นที่ตรวจสอบ รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ตลาดนัด ฯลฯ ในพื้นที่ตำบลบ้านนา กรณีปรากฎข่าวสารว่ามีแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวนมาก และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 







ห้ามมิให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินมาตรการคัดกรองเชิงรุกให้ครอบคลุมทุกพื้นที พร้อมทั้งขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการติดตามเฝ้าระวังค้นหากลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในความรับผิดชอบ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนทราบเพื่อป้องกันการตื่นตระหนก


วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงานประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบเสื้อผ้าให้แก่ผู้ใช้แรงงานในพื้นที่

#ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์  #ชีพจรสุราษฎร์  #SuratNews #MKDtv


วันที่ 5 ธันวาคม 2563 วันพ่อแห่งชาติ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงานประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยการนำเสื้อผ้าใช้แล้วสภาพดี จำนวนประมาณ 500 ชิ้น ไปมอบให้แก่ผู้ใช้แรงงาน บริษัท โปรดักส์ฟูดส์ จำกัด ซึ่งได้ร้บผลทบจากวิกฤติน้ำท่วม










 ดีป้า ร่วมกับสภาอุตสาหกรรม จ.พังงา 

สนับสนุนใช้เทคโนโลยี ยกระดับเกษตรกร เพิ่มผลผลิต รายได้

#ศูนย์ข่าวเมืองคนดีนิวส์  #ชีพจรสุราษฎร์  #SuratNews #MKDtv

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จับมือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพังงาส่งเสริมเกษตรกรภาคใต้ ผ่านมาตรการคูปองดิจิทัล

วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2563 สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา สนับสนุนการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับเกษตรกร เพิ่มผลผลิตลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย 

ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ภาคใต้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ดีป้า ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรยกระดับการบริหารจัดการกระบวนการผลิตด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ผ่านคูปองดิจิทัลเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (depa mini Transformation Voucher) โดยร่วมมือกับเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการดิจิทัล (Digital Provider) ในโครงการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานฯ เพื่อให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะสามารถเข้าถึงดิจิทัลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเกิดความมั่นใจในการได้รับเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน เหมาะสมกับบริบทของตนเอง สามารถช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้อีกทางหนึ่ง

​ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มีมติเห็นชอบ “โครงการพัฒนาและเกษตรกรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล” จากหน่วยงานร่วมดำเนินงานในภาคใต้ โดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา เพื่อตอบสนองภารกิจดังกล่าว จำนวน 450 คูปอง ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดพังงา สุราษฎร์ธานี และยะลา มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการเกษตร และเกษตรกรในภาคใต้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการประกอบอาชีพ และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนสู่ธุรกิจดิจิทัลอย่างมีศักยภาพ

​ด้าน นายชัยยันต์ ใจเย็น ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมพังงา มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมจัดโครงการในครั้งนี้ สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรในภาคใต้ยกระดับการบริหารจัดการด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในกลุ่ม Software Hardware Smart Devices และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สร้างความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการในกระบวนการภายในของธุรกิจ ทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับธุรกิจเกษตรกรในภาคใต้ และส่งเสริมสนับสนุนให้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัล หรือวิสาหกิจชุมชนด้านดิจิทัลในประเทศ เพื่อให้เกิดกลไกหมุนเวียนในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป